top of page
Writer's pictureManow Journey

ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เรา(แม่ ลูก)คือผู้พิชิตภูกระดึง

Updated: Dec 28, 2019


  • ทริปเดินป่าครั้งแรกในชีวิตของมะนาวก้าวเดิน

  • ผู้ที่ไป อึด ถึก ลุย คือ ลูกสาวค่ะ ชื่อ กัสท์จัง และ คุณมะนัยเ

  • ดินทางด้วยรถทัวร์ของบริษัทแอร์เมืองเลย วีไอพี 

  • ราคาไป+กลับ คนล่ะ 1,000 บาท

  • ลงที่ ผานกเค้า ร้านเจ้กิม 

  • ทริปนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ออกลุย เรื่องเงิน เราเลยไม่ค่อยได้มีรายละเอียดนะค่ะ 

  • ตั้งงบไว้คนล่ะ4พันบาท นอนบนรถทัวร์ ไปและกลับ 

  • นอนบนภูกระดึงสองคืนค่ะ ให้กัสท์จังถือไว้และเป็นผู้จ่าย 

  • ก็เหลือกลับมาทอนค่ะ ขอโทษไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะค่ะ 

  • ดูขำๆ สนุกๆล่ะกันเน๊อะ.... 

  • เรามาถึงร้านเจ๊กิมก็ตี3 ได้ค่ะ อากาศหนาว ตัวสั่นกันเลย(19 องศา)  ไม่ต้องห่วงค่ะ มีคนนั่งรอเป็นเพื่อนกันเยอะค่ะ 

  • มีนักท่องเที่ยวขาลุยมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆค่ะ จนร้านเจ้กิมเปิดทำการ

  • เราก็หาข้าวเช้ารับประทาน เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน

  • 6โมงกว่าๆก็เริ่มมีรถสองแถวสีแดงมาจอดรอ 10 คนก็ออกรถหรือหารกันไม่รอก็ได้ค่ะ ตอนนั้นก็หารกันสี่ห้าคน คนล่ะ40บาท


  • หลังจากจ่ายค่าเต็นท์ ค่าเข้าอุทยานเรียบร้อยเราก็มาที่จุดช่างสัมภาระ ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะ เราขนกันมาแบบจัดเต็มสามฤดูกาล

  • สรุปยอดตาช่างเรา 30 กิโลกรัมๆละ 30 บาท

  • ระหว่างรวบรวมกำลังใจจะเดินหน้าต่อไป เราก็เฝ้ามอง ลูกหาบจนรู้สึกฮึกเหิมได้ที่ ก็ลุย



  • อ่านรีวิวมามากมายแค่ไหน ไม่ได้มาเองมันก็ไม่เข้าใจเอาล่ะ ไปเข้าใจกันว่า มันจะไหวไหม?

  • เจอกองไม้ไผ่ที่อ่านมาว่า ต้องมีไว้ช่วยชีวิต ไว้พยุงร่างขึ้นเขาค่ะ


  • ช่วงแรกนี้ตื่นตา ตื่นใจ กดชัดเตอร์ไปเรื่อยค่ะ

  • ป่าไผ่สีทอง สวยจริงๆค่ะ

  • ใครมาถึงคนสุดท้ายคงรู้ มะนาวกัดฟันมาเลย

  • นี้ยังแค่2กิโลเมตรแรกเองนะ ใจจิขาด

  • หลังจากเดินมา 2 กิโลเมตร 2 ชั่วโมง เกิดความกลัวขึ้นระดับ7 ใน 10 จะถึงวังกวาง ที่กางเต็นท์กี่โมง

  • อย่ามัวบ่น กินอิ่มแล้ว ไปห้องน้ำ ให้เรียบร้อย

  • เป็นห้องน้ำที่2 จากร้านเจ้กิม ที่ มีเอกลักษณ์แตกต่าง 

  • ห้องน้ำแรกร้านเจ๊กิม เหมือนย้อนวัยไปสมัยเรียนโรงเรียนวัด 

  • ห้องน้ำที่2 (ที่ ซำกกซาง)แบบ โอเพนแอร์ เปิดประทุนกัสท์จังบอก

  • ไม่มีที่ล็อคประตู เป็นสังกะสี

  • การมาภูกระดึง เราแม่ลูก มาพิสูจน์ส้วมกันรึนี้

  • ความน่ารักของลูก ที่ช่วยทายาคลายกล้ามเนื้อน่องให้แม่มันเย็นซู่ซ่า มีกำลังใจเดินไปอีกหลายกิโลเมตร


  • จุดที่ พีท ที่สุดดด หลังแปอีก 1,300 เมตร

  • สู้กันอีกตั้งกับ ซำแคร่ ทางโหดพอกับ ซำแฮกเลย 

  • แต่จบจากตรงนี้ จะเดินทางราบแล้ว

  • ก่อนจะไปต่อ.. 

  • มาสนทนาเรื่องส้วมกันต่ออีก1ส้วมค่ะ 

  • ห้องน้ำที่3 (ที่ซำกกโดน)กัสท์จังเข้าไปแล้วล็อคประตู้ ก็ร้องกรี๊ดดดดด 

  • อะไรลูก???? จิ้งเหลนอ้ะแม่!!!! 

  • ออกมาจากห้องน้ำกัสท์จังถามมะนาวว่า ต้องสตองแค่ไหน? ถึงจะอยู่รอด 

  • ขำๆกันไป สนุกดีค่ะ มีเวลาได้ผจญภัยไปด้วยกัน...

  • " ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิซิตภูกระดึง " 

  • หายเหนื่อย ยินดีกับชัยชนะเรียบร้อย เราก็ออกเดินทาง มุ่งหน้าไป วังกวางอีก 3.5 กิโลเมตร

  • ไม่น่าจะมีอะไรมาก เดินฟินๆเรื่อยๆไม่ต้องไต่ ไม่ต้องใช้สองมือ สองเท้า คลานอีกต่อไป


  • เดินทางราบ มันร้อนกว่าตอนตะกายขึ้นเขามาควรเตรียมตัวให้พร้อมนะค่ะ ทั้งหมวก เสื้อแขนยาว น้ำดื่ม และ ยาดม

  • เดินได้ไวขึ้นค่ 15:00 เราก็มาถึง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติ ที่ๆเราจะนอนเต็นท์ค่ะ


  • ออกเดินทางขึ้นภูมาตั้งแต่ 8โมงเช้า ถึงจุดกางเต็นท์ 15:00

  • ระยะทาง 9 กิโลเมตร เราใช้เวลาเดิน 7 ช.ม

  • ตอนแรกแอบอายค่ะ ว่าเราทั้งสาม อาจจะเดินช้าที่สุดแน่ๆ

  • แต่พอถามท่านอื่นๆ ก็ใช้เวลาใก้ลๆกันค่ะ


  • ความสุขของ กัสท์จัง เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับการนอนของพวกเราอยู่

  • หอบกันไป ที่นอน หมอน ถุงนอน ให้กัสท์จังเป็นผู้เลือกว่าจะนอนเต็นท์ไหน?

  • สำรวจแล้ว ไม่มีทากแอบเข้ามานอนรอเราแน่นอน

  • สรุปลงตัว ที่นี้จะเป็นบ้านของเราสองคืน

  • พักพอหายเหนื่อย เราก็ต้องรวบรวมกำลังภายในที่เหลืออยู่น้อยนิดมุ่งมั่นไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผ่าหมากดูก

  • ระยะทาง 2 กิโลเมตร อย่าลีลา...ออกเดินทางได้



  • มาถึงก็เกือบจะ5โมงครึ่ง เจอแสงเทพแบบนี้ น้ำตาจิไหล

  • สวยโครตอ้ะ หายเหนื่อยเลย สวรรค์ของคนชอบกดชัดเตอร์เลย

  • แต่คนที่ไม่ได้กดชัดเตอร์ล่ะ?

  • หันไปชวนกัสท์จังเป็นนางแบบ

  • นางแบบงอแง ห้ามรบกวนลูกเด็ดขาด หลังจากลูกเดินมาสิบกว่ากิโลเมตร ไม่งั้นชะตาแม่ ขาด!!!



  • พอใจแล้วสำหรับการได้มา ชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก

  • ขากลับ แจกไฟฉายคนล่ะอัน เดินกลับตามๆกันมากับคนอื่นๆ

  • ไม่อันตรายค่ะ ถึงไปถึกคนเดียว ก็สามารถตีสนิท มีเพื่อนใหม่ขาถึกเหมือนกันได้ และ จะสนิทกันอย่างรวดเร็ว

  • เพราะ แลกเปลี่ยนกันเล่าถึง การผจญภัยของการไต่ภูกระดึงขึ้นมาได้ ของวันนี้

  • มิตรภาพ เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพียงคุณยิ้ม และทักทาย

  • " https://www.facebook.com/groups/LovePhukradung/ "

  • แนะนำ คนที่อยากจะเดินทางไปภูกระดึง เข้าไปที่ กลุ่มรักภูกระดึง ค่ะ

  • เพราะเราจะได้ความรู้ ได้เพื่อนใหม่ๆ รวมทั้งอาจจะได้เพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกัน

  • ไม่เข้าใจ สิ่งใด เพื่อนๆ พี่ๆในกลุ่ม จะช่วยตอบข้อข้องใจให้

  • ย้อนกลับไปเมื่อคืน เรากลับมาถึงเต็นท์ก็น่าจะไม่เกินสามทุ่มค่ะ อากาศเย็นจัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่อาบน้ำก็ไม่ไหวล่ะ อาบเหงื่อมาทั้งวันเป็นโอ่งๆ

  • กัสท์จังเหนื่อยแสนสาหัสขอผ่าน ขอแค่ ทิดชู่เปียกเช็ดตัวในห้องน้ำ

  • มะนาว รอคิวอาบน้ำค่ะ เข้าไปในห้องน้ำ ทำงัยดีนี้ น้ำเย็นเหมือนน้ำแข็งเลย ก็ค่อยๆราดที่เท้าขึ้นมา ....ไม่ถึงสามวินาที ยังไม่ทันจะกรีดร้องว่าหน๊าวววววหนาวววว พี่ตะคิวกินขาสองข้าง ปวดมากค่ะ นั่งลงที่พื้น น้ำตาหยด บวกกับขำสภาพตัวเอง ทั้งหนาว ทั้งเย็น บีบเท้า บีบน่องตัวเองแบบอนาถ กว่าจะอาบน้ำเสร็จ มันเหมือนใช้เวลาเป็นชาติ .....

  • ก่อนจะมาก็ได้ซื้อ ยาทุกชนิด ทั้ง ยาทา กิน แปะ นวด ดม ก่อนนอน แม่ลูก ก็จัดยาทุกชนิดที่นำมาชุดใหญ่ หลับกลางอากาศเลยค่ะ กลัวค่ะ ว่าเช้ามา จะหายตึงกล้ามเนื้อไหม ร่างมันจะแหลกยังงัยไม่รู้คืนนี้?

  • อาหารที่กินคืนนี้ ของขึ้นชื่อของการมาภูกระดึงค่ะ หมูกะทะ นั้นเอง

  • โครงการว่า ตี4 จะตื่นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ ผานกแอ่น แต่!! ลุกไปไม่ไหว ขอติดไว้ก่อนล่ะกัน แหะๆ ไม่ไหวอย่าฝืนเน๊อะ เดี๋ยวไม่สนุก นี้ยังอาการเพลียๆ ปวดน่องนิดหน่อย แต่พอได้เดินเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ


  • สิ่งที่จะช่วยให้อะไรๆดีขึ้น คือ อาหารเช้าค่ะ

  • สะสมพลังงานเรียบร้อยพร้อมออกเดินทาง

  • วันนี้ต้องไปหลายจุด ไปถึงผาหล่มสักชมพระอาทิตย์ตก และ ต้องเดินกลับ

  • วันนี้ต้องเดินเกือบ20 กิโลเมตร

  • จุดแรก ตือ ลานวัดพระแก้ว ไห้วพระขอพรให้เราเดินทางท่องเที่ยวธรรมชาติปลอดภัย ทั้งไปและกลับ สาธุ


  • สถานีต่อไปคือ สระอโนดาต (ช่วงที่เราไป น้ำตกเริ่มแห้งแล้วค่ะ เลยไม่ได้แวะชมจุดน้ำตก)

  • ภาพนี้ให้ชื่อว่า " นี้แน่ะ!!!! พาลูกมาทรมานดีนัก!! "


  • เดินต่อมาไม่นานก็ผ่าน น้ำตกถ้ำสอเหนือ แต่น้ำแห้งมาก เลยไปต่อค่ะ

  • ระยะจากจุดนี้ ยิงยาวไปถึงผาหล่มสักเลยค่ะ ร้อนมาก

  • ต้องเตรียมน้ำ และ อาหารติดตัวไปนะค่ะ เพราะตลอดทาง ไม่มีร้านค้าค่ะ แห้งแล้งเชียว

  • มีเพียง บราวนี่ ที่โด่งดั่งที่สุด อร่อยที่สุด ที่เป็นกำลังใจให้เราก้าวขาเดินตากแดดต่อไป

  • ร้านชื่อ ร้าน กาแฟชมพู่มะเหมี่ยว ค่ะ เราจองกันไว้คนล่ะ 2 ชิ้น

  • http://m.edtguide.com/drink/419935


  • ไปถึงรีบหม่ำทันที่ 1 ชิ้น อร่อยจริง สมคำร่ำลือ

  • ส่วนอีกชิ้น เก็บไว้เป็นเสบียงตอนเดินกลับ

  • ตั้งแต่มาถึงผาหล่มสัก...เราก็ ยัด! ทุกอย่างเข้าร่าง ดั่งเช่นจะเป็น อาหารมื้อสุดท้ายของชีวิต

  • เดินไปเห็นวิว น้ำตาจิจะไหล มีหลายครั้ง ที่ใจมันไม่ไหว ร้อน เมื่อย ปวดหลัง เจ็บน่อง



  • แสงเย็น เริ่มมาแล้วววว ลุ้นต่อไป ว่าจะได้เห็นไข่แดงไหม?







  • เดินตามกันมาเป็นแถว ระหว่างทางก็มีจุดขายอาหาร เครื่องดื่มค่ะข้าวจี่ เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของภูกระดึงอีกอย่างค่ะ

  • มะนาวเดินไม่ไหวบอกตรงๆ ขามันหมดแรง

  • เราเดินแข่งกับความมืด ความกลัวจะหลุดห่างจากกลุ่ม เดินไวมาก

  • กัสท์จัง ยังร่าเริ่ง โดดไป ร้องเพลงไป น่าจะเพราะอยากจะหาอะไรทำสนุกๆ

  • 9 กิโลเมตรนี้ เราเดินกลับมาถึงเต็นท์ไม่ถึง 3 ช.ม

  • มะนาวเดินเลยเต็นท์ไปนั่งที่ศาลา ถอดรองเท้าทิ้ง เพราะมีแต่ทรายในรองเท้า เดินเหยียบทรายมาตั้งหลาย ก.ม พอหายเหนื่อย จะลุกขึ้นเดินไปหากัสท์จังที่เต็นท์ ก็ถึงกับร้องไห้เลย เจ็บปวดทุกก้าว ค่อยๆลากขาไป

  • อาจจะเพราะเราหยุดเดิน กล้ามเนื้อไม่ทันตั้งตัวแน่ๆ คืนนี้คงไปโดนตะคริวกินขาในห้องน้ำไม่ไหวล่ะ เช็ดตัวแบบกัสท์จังพอดีกว่า

  • หลังจากเรียบร้อยเราก็ลากสังขาร ไปหาข้าวกิน กัสท์จังอยู่ๆเป็นแบบมะนาว เดินไม่ได้เลย ขาตึง ต้องประคองกันไปร้านอาหาร คืนนั้น มะนาวไม่เจริญอาหารเลย

  • มันเหนื่อยเกินไป กัสท์จังร้องไห้แง้ๆ ปวดขา ต้องนวดกันไป ขำกันไป สลับร้องไห้

  • เป็นคืนที่ โครตทรมาน ถามตัวเองว่า บ้ารึเปล่า มาทำอะไรที่ภูกระดึง


  • ได้ยินเสียงคนคุยกันคึกคักรอบๆ เลยลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่าง

  • โอ้ววว วันนี้มีหมอกด้วยถือกล้องออกมากดภาพ ลืมหมดที่ว่าปวดขา

  • หลังรับประทานอาหารเช้า เราก็เดินลงภูกระดึง


  • ขากลับนี้เดินไต่ระดับลงมาแบบสบายๆไม่รีบค่ะ

  • แวะกินโน้นนี้ นั้นทุกซำเลยค่ะ ชิลมาก



  • เก็บภาพ เก็บความรู้สึกที่ ครั้งหนึ่ง เรามาพิซิตภูกระดึง

  • มันเหนื่อยสุดติ่งกระดิ่งแมวเลยล่ะ แต่มัน คุ้มค่า กับสิ่งที่เราได้กลับมา

  • นี้ล่ะมั่งที่เค้าว่า... สิ่งไหนที่ได้มาด้วยความยาก ลำบาก มันจะมีค่า ที่จะต้องจดจำไปจนตาย

  • เซ็นชื่อ ออกจากภูกระดึงเรียบร้อย รีบถอดรองเท้าโยนทิ้ง สองคนแม่ลูก นั่งมองนิ้วเท้าดุ๊กดิ๊ก ของกันและกัน และต่างบ่นว่า

  • " ครั้งเดียวในชีวิต ที่มาพิซิตภูกระดึงพอแล้ว สำหรับเราแม่ลูก"

  • แต่พอกลับมา เลียแผลกายหายอักเสป ไม่เจ็บไม่ปวด เราก็คิดถึงภูกระดึงกันซะแล้ว

  • อยากจะกลับไปหาอีก มันแปลกดีเน๊อะค่ะ.....

  • ถ้าไม่เชื่อ!!! ขอท้าให้ลอง แล้วคุณจะรู้คำตอบด้วยตัวคุณเองว่า เพราะอะไร?


82 views0 comments

Comentários


bottom of page