ทริปเดินป่าครั้งแรกในชีวิตของมะนาวก้าวเดิน
ผู้ที่ไป อึด ถึก ลุย คือ ลูกสาวค่ะ ชื่อ กัสท์จัง และ คุณมะนัยเ
ดินทางด้วยรถทัวร์ของบริษัทแอร์เมืองเลย วีไอพี
ราคาไป+กลับ คนล่ะ 1,000 บาท
ลงที่ ผานกเค้า ร้านเจ้กิม
ทริปนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ออกลุย เรื่องเงิน เราเลยไม่ค่อยได้มีรายละเอียดนะค่ะ
ตั้งงบไว้คนล่ะ4พันบาท นอนบนรถทัวร์ ไปและกลับ
นอนบนภูกระดึงสองคืนค่ะ ให้กัสท์จังถือไว้และเป็นผู้จ่าย
ก็เหลือกลับมาทอนค่ะ ขอโทษไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะค่ะ
ดูขำๆ สนุกๆล่ะกันเน๊อะ....
เรามาถึงร้านเจ๊กิมก็ตี3 ได้ค่ะ อากาศหนาว ตัวสั่นกันเลย(19 องศา) ไม่ต้องห่วงค่ะ มีคนนั่งรอเป็นเพื่อนกันเยอะค่ะ
มีนักท่องเที่ยวขาลุยมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆค่ะ จนร้านเจ้กิมเปิดทำการ
เราก็หาข้าวเช้ารับประทาน เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน
6โมงกว่าๆก็เริ่มมีรถสองแถวสีแดงมาจอดรอ 10 คนก็ออกรถหรือหารกันไม่รอก็ได้ค่ะ ตอนนั้นก็หารกันสี่ห้าคน คนล่ะ40บาท
หลังจากจ่ายค่าเต็นท์ ค่าเข้าอุทยานเรียบร้อยเราก็มาที่จุดช่างสัมภาระ ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะ เราขนกันมาแบบจัดเต็มสามฤดูกาล
สรุปยอดตาช่างเรา 30 กิโลกรัมๆละ 30 บาท
ระหว่างรวบรวมกำลังใจจะเดินหน้าต่อไป เราก็เฝ้ามอง ลูกหาบจนรู้สึกฮึกเหิมได้ที่ ก็ลุย
อ่านรีวิวมามากมายแค่ไหน ไม่ได้มาเองมันก็ไม่เข้าใจเอาล่ะ ไปเข้าใจกันว่า มันจะไหวไหม?
เจอกองไม้ไผ่ที่อ่านมาว่า ต้องมีไว้ช่วยชีวิต ไว้พยุงร่างขึ้นเขาค่ะ
ช่วงแรกนี้ตื่นตา ตื่นใจ กดชัดเตอร์ไปเรื่อยค่ะ
ป่าไผ่สีทอง สวยจริงๆค่ะ
ใครมาถึงคนสุดท้ายคงรู้ มะนาวกัดฟันมาเลย
นี้ยังแค่2กิโลเมตรแรกเองนะ ใจจิขาด
หลังจากเดินมา 2 กิโลเมตร 2 ชั่วโมง เกิดความกลัวขึ้นระดับ7 ใน 10 จะถึงวังกวาง ที่กางเต็นท์กี่โมง
อย่ามัวบ่น กินอิ่มแล้ว ไปห้องน้ำ ให้เรียบร้อย
เป็นห้องน้ำที่2 จากร้านเจ้กิม ที่ มีเอกลักษณ์แตกต่าง
ห้องน้ำแรกร้านเจ๊กิม เหมือนย้อนวัยไปสมัยเรียนโรงเรียนวัด
ห้องน้ำที่2 (ที่ ซำกกซาง)แบบ โอเพนแอร์ เปิดประทุนกัสท์จังบอก
ไม่มีที่ล็อคประตู เป็นสังกะสี
การมาภูกระดึง เราแม่ลูก มาพิสูจน์ส้วมกันรึนี้
ความน่ารักของลูก ที่ช่วยทายาคลายกล้ามเนื้อน่องให้แม่มันเย็นซู่ซ่า มีกำลังใจเดินไปอีกหลายกิโลเมตร
จุดที่ พีท ที่สุดดด หลังแปอีก 1,300 เมตร
สู้กันอีกตั้งกับ ซำแคร่ ทางโหดพอกับ ซำแฮกเลย
แต่จบจากตรงนี้ จะเดินทางราบแล้ว
ก่อนจะไปต่อ..
มาสนทนาเรื่องส้วมกันต่ออีก1ส้วมค่ะ
ห้องน้ำที่3 (ที่ซำกกโดน)กัสท์จังเข้าไปแล้วล็อคประตู้ ก็ร้องกรี๊ดดดดด
อะไรลูก???? จิ้งเหลนอ้ะแม่!!!!
ออกมาจากห้องน้ำกัสท์จังถามมะนาวว่า ต้องสตองแค่ไหน? ถึงจะอยู่รอด
ขำๆกันไป สนุกดีค่ะ มีเวลาได้ผจญภัยไปด้วยกัน...
" ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิซิตภูกระดึง "
หายเหนื่อย ยินดีกับชัยชนะเรียบร้อย เราก็ออกเดินทาง มุ่งหน้าไป วังกวางอีก 3.5 กิโลเมตร
ไม่น่าจะมีอะไรมาก เดินฟินๆเรื่อยๆไม่ต้องไต่ ไม่ต้องใช้สองมือ สองเท้า คลานอีกต่อไป
เดินทางราบ มันร้อนกว่าตอนตะกายขึ้นเขามาควรเตรียมตัวให้พร้อมนะค่ะ ทั้งหมวก เสื้อแขนยาว น้ำดื่ม และ ยาดม
เดินได้ไวขึ้นค่ 15:00 เราก็มาถึง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติ ที่ๆเราจะนอนเต็นท์ค่ะ
ออกเดินทางขึ้นภูมาตั้งแต่ 8โมงเช้า ถึงจุดกางเต็นท์ 15:00
ระยะทาง 9 กิโลเมตร เราใช้เวลาเดิน 7 ช.ม
ตอนแรกแอบอายค่ะ ว่าเราทั้งสาม อาจจะเดินช้าที่สุดแน่ๆ
แต่พอถามท่านอื่นๆ ก็ใช้เวลาใก้ลๆกันค่ะ
ความสุขของ กัสท์จัง เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับการนอนของพวกเราอยู่
หอบกันไป ที่นอน หมอน ถุงนอน ให้กัสท์จังเป็นผู้เลือกว่าจะนอนเต็นท์ไหน?
สำรวจแล้ว ไม่มีทากแอบเข้ามานอนรอเราแน่นอน
สรุปลงตัว ที่นี้จะเป็นบ้านของเราสองคืน
พักพอหายเหนื่อย เราก็ต้องรวบรวมกำลังภายในที่เหลืออยู่น้อยนิดมุ่งมั่นไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผ่าหมากดูก
ระยะทาง 2 กิโลเมตร อย่าลีลา...ออกเดินทางได้
มาถึงก็เกือบจะ5โมงครึ่ง เจอแสงเทพแบบนี้ น้ำตาจิไหล
สวยโครตอ้ะ หายเหนื่อยเลย สวรรค์ของคนชอบกดชัดเตอร์เลย
แต่คนที่ไม่ได้กดชัดเตอร์ล่ะ?
หันไปชวนกัสท์จังเป็นนางแบบ
นางแบบงอแง ห้ามรบกวนลูกเด็ดขาด หลังจากลูกเดินมาสิบกว่ากิโลเมตร ไม่งั้นชะตาแม่ ขาด!!!
พอใจแล้วสำหรับการได้มา ชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก
ขากลับ แจกไฟฉายคนล่ะอัน เดินกลับตามๆกันมากับคนอื่นๆ
ไม่อันตรายค่ะ ถึงไปถึกคนเดียว ก็สามารถตีสนิท มีเพื่อนใหม่ขาถึกเหมือนกันได้ และ จะสนิทกันอย่างรวดเร็ว
เพราะ แลกเปลี่ยนกันเล่าถึง การผจญภัยของการไต่ภูกระดึงขึ้นมาได้ ของวันนี้
มิตรภาพ เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพียงคุณยิ้ม และทักทาย
แนะนำ คนที่อยากจะเดินทางไปภูกระดึง เข้าไปที่ กลุ่มรักภูกระดึง ค่ะ
เพราะเราจะได้ความรู้ ได้เพื่อนใหม่ๆ รวมทั้งอาจจะได้เพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกัน
ไม่เข้าใจ สิ่งใด เพื่อนๆ พี่ๆในกลุ่ม จะช่วยตอบข้อข้องใจให้
ย้อนกลับไปเมื่อคืน เรากลับมาถึงเต็นท์ก็น่าจะไม่เกินสามทุ่มค่ะ อากาศเย็นจัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่อาบน้ำก็ไม่ไหวล่ะ อาบเหงื่อมาทั้งวันเป็นโอ่งๆ
กัสท์จังเหนื่อยแสนสาหัสขอผ่าน ขอแค่ ทิดชู่เปียกเช็ดตัวในห้องน้ำ
มะนาว รอคิวอาบน้ำค่ะ เข้าไปในห้องน้ำ ทำงัยดีนี้ น้ำเย็นเหมือนน้ำแข็งเลย ก็ค่อยๆราดที่เท้าขึ้นมา ....ไม่ถึงสามวินาที ยังไม่ทันจะกรีดร้องว่าหน๊าวววววหนาวววว พี่ตะคิวกินขาสองข้าง ปวดมากค่ะ นั่งลงที่พื้น น้ำตาหยด บวกกับขำสภาพตัวเอง ทั้งหนาว ทั้งเย็น บีบเท้า บีบน่องตัวเองแบบอนาถ กว่าจะอาบน้ำเสร็จ มันเหมือนใช้เวลาเป็นชาติ .....
ก่อนจะมาก็ได้ซื้อ ยาทุกชนิด ทั้ง ยาทา กิน แปะ นวด ดม ก่อนนอน แม่ลูก ก็จัดยาทุกชนิดที่นำมาชุดใหญ่ หลับกลางอากาศเลยค่ะ กลัวค่ะ ว่าเช้ามา จะหายตึงกล้ามเนื้อไหม ร่างมันจะแหลกยังงัยไม่รู้คืนนี้?
อาหารที่กินคืนนี้ ของขึ้นชื่อของการมาภูกระดึงค่ะ หมูกะทะ นั้นเอง
โครงการว่า ตี4 จะตื่นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ ผานกแอ่น แต่!! ลุกไปไม่ไหว ขอติดไว้ก่อนล่ะกัน แหะๆ ไม่ไหวอย่าฝืนเน๊อะ เดี๋ยวไม่สนุก นี้ยังอาการเพลียๆ ปวดน่องนิดหน่อย แต่พอได้เดินเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ
สิ่งที่จะช่วยให้อะไรๆดีขึ้น คือ อาหารเช้าค่ะ
สะสมพลังงานเรียบร้อยพร้อมออกเดินทาง
วันนี้ต้องไปหลายจุด ไปถึงผาหล่มสักชมพระอาทิตย์ตก และ ต้องเดินกลับ
วันนี้ต้องเดินเกือบ20 กิโลเมตร
จุดแรก ตือ ลานวัดพระแก้ว ไห้วพระขอพรให้เราเดินทางท่องเที่ยวธรรมชาติปลอดภัย ทั้งไปและกลับ สาธุ
สถานีต่อไปคือ สระอโนดาต (ช่วงที่เราไป น้ำตกเริ่มแห้งแล้วค่ะ เลยไม่ได้แวะชมจุดน้ำตก)
ภาพนี้ให้ชื่อว่า " นี้แน่ะ!!!! พาลูกมาทรมานดีนัก!! "
เดินต่อมาไม่นานก็ผ่าน น้ำตกถ้ำสอเหนือ แต่น้ำแห้งมาก เลยไปต่อค่ะ
ระยะจากจุดนี้ ยิงยาวไปถึงผาหล่มสักเลยค่ะ ร้อนมาก
ต้องเตรียมน้ำ และ อาหารติดตัวไปนะค่ะ เพราะตลอดทาง ไม่มีร้านค้าค่ะ แห้งแล้งเชียว
มีเพียง บราวนี่ ที่โด่งดั่งที่สุด อร่อยที่สุด ที่เป็นกำลังใจให้เราก้าวขาเดินตากแดดต่อไป
ร้านชื่อ ร้าน กาแฟชมพู่มะเหมี่ยว ค่ะ เราจองกันไว้คนล่ะ 2 ชิ้น
ไปถึงรีบหม่ำทันที่ 1 ชิ้น อร่อยจริง สมคำร่ำลือ
ส่วนอีกชิ้น เก็บไว้เป็นเสบียงตอนเดินกลับ
ตั้งแต่มาถึงผาหล่มสัก...เราก็ ยัด! ทุกอย่างเข้าร่าง ดั่งเช่นจะเป็น อาหารมื้อสุดท้ายของชีวิต
เดินไปเห็นวิว น้ำตาจิจะไหล มีหลายครั้ง ที่ใจมันไม่ไหว ร้อน เมื่อย ปวดหลัง เจ็บน่อง
แสงเย็น เริ่มมาแล้วววว ลุ้นต่อไป ว่าจะได้เห็นไข่แดงไหม?
เดินตามกันมาเป็นแถว ระหว่างทางก็มีจุดขายอาหาร เครื่องดื่มค่ะข้าวจี่ เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของภูกระดึงอีกอย่างค่ะ
มะนาวเดินไม่ไหวบอกตรงๆ ขามันหมดแรง
เราเดินแข่งกับความมืด ความกลัวจะหลุดห่างจากกลุ่ม เดินไวมาก
กัสท์จัง ยังร่าเริ่ง โดดไป ร้องเพลงไป น่าจะเพราะอยากจะหาอะไรทำสนุกๆ
9 กิโลเมตรนี้ เราเดินกลับมาถึงเต็นท์ไม่ถึง 3 ช.ม
มะนาวเดินเลยเต็นท์ไปนั่งที่ศาลา ถอดรองเท้าทิ้ง เพราะมีแต่ทรายในรองเท้า เดินเหยียบทรายมาตั้งหลาย ก.ม พอหายเหนื่อย จะลุกขึ้นเดินไปหากัสท์จังที่เต็นท์ ก็ถึงกับร้องไห้เลย เจ็บปวดทุกก้าว ค่อยๆลากขาไป
อาจจะเพราะเราหยุดเดิน กล้ามเนื้อไม่ทันตั้งตัวแน่ๆ คืนนี้คงไปโดนตะคริวกินขาในห้องน้ำไม่ไหวล่ะ เช็ดตัวแบบกัสท์จังพอดีกว่า
หลังจากเรียบร้อยเราก็ลากสังขาร ไปหาข้าวกิน กัสท์จังอยู่ๆเป็นแบบมะนาว เดินไม่ได้เลย ขาตึง ต้องประคองกันไปร้านอาหาร คืนนั้น มะนาวไม่เจริญอาหารเลย
มันเหนื่อยเกินไป กัสท์จังร้องไห้แง้ๆ ปวดขา ต้องนวดกันไป ขำกันไป สลับร้องไห้
เป็นคืนที่ โครตทรมาน ถามตัวเองว่า บ้ารึเปล่า มาทำอะไรที่ภูกระดึง
ได้ยินเสียงคนคุยกันคึกคักรอบๆ เลยลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่าง
โอ้ววว วันนี้มีหมอกด้วยถือกล้องออกมากดภาพ ลืมหมดที่ว่าปวดขา
หลังรับประทานอาหารเช้า เราก็เดินลงภูกระดึง
ขากลับนี้เดินไต่ระดับลงมาแบบสบายๆไม่รีบค่ะ
แวะกินโน้นนี้ นั้นทุกซำเลยค่ะ ชิลมาก
เก็บภาพ เก็บความรู้สึกที่ ครั้งหนึ่ง เรามาพิซิตภูกระดึง
มันเหนื่อยสุดติ่งกระดิ่งแมวเลยล่ะ แต่มัน คุ้มค่า กับสิ่งที่เราได้กลับมา
นี้ล่ะมั่งที่เค้าว่า... สิ่งไหนที่ได้มาด้วยความยาก ลำบาก มันจะมีค่า ที่จะต้องจดจำไปจนตาย
เซ็นชื่อ ออกจากภูกระดึงเรียบร้อย รีบถอดรองเท้าโยนทิ้ง สองคนแม่ลูก นั่งมองนิ้วเท้าดุ๊กดิ๊ก ของกันและกัน และต่างบ่นว่า
" ครั้งเดียวในชีวิต ที่มาพิซิตภูกระดึงพอแล้ว สำหรับเราแม่ลูก"
แต่พอกลับมา เลียแผลกายหายอักเสป ไม่เจ็บไม่ปวด เราก็คิดถึงภูกระดึงกันซะแล้ว
อยากจะกลับไปหาอีก มันแปลกดีเน๊อะค่ะ.....
ถ้าไม่เชื่อ!!! ขอท้าให้ลอง แล้วคุณจะรู้คำตอบด้วยตัวคุณเองว่า เพราะอะไร?
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามแล้วไปเที่ยวด้วยกันต่อน่าคร่า
✔️เพจมะนาวก้าวเดิน https://web.facebook.com/manowjourney/
✔️กดติดตามช่อง YouTube มะนาวก้าวเดิน https://www.youtube.com/c/มะนาวก้าวเดิน
✔️ติดตามทุกการเดินทางของมะนาวก้าวเดิน www.manowjourney.com
✔️อ่านรีวิวการเดินทางทั้งหมดได้ที่ https://th.readme.me/id/ManOvv
✔️Flollvv แอปวางแผนการท่องเที่ยว และ สถานที่ท่องเที่ยวhttps://www.follovv.me
✔️ติดต่องาน06 6159 9649
วีดีโอทริปค่ะ
Comentários