top of page
Writer's pictureManow Journey

ไม่มีรถส่วนตัว ก็ ไปเที่ยว นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียง ได้

Updated: Jan 31, 2020


  • นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

  • มะนาวเคยไปเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนต้นข้าวยังเป็นต้นกล้า ไม่เต็มพื้นที่ทำให้สามารถมองเห็นภาพสะท้อนพื้นน้ำของท้องนา

  • แต่ครั้งนี้ มะนาวอยากเห็น สีทองของรวงข้าว

  • จองตั๋วรถไฟขบวนใหม่ล่วงหน้าหนึ่งเดือนก็ยังไม่ได้ เต็มแล้วค่ะ ได้รถไฟขบวนเก่า ด่วนพิเศษ ขบวนที่ 13

  • เวลาออกเดินทางจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ(หัวลำโพง) 19:35 น.ถึงเชียงใหม่ 08:40 น.

  • ราคาตั๋วเตียงล่าง 841 บาท เตียงบน 771 บาท

  • สองปีแล้วไม่ได้ใช้บริการรถไฟขบวนเก่า เลยยังไม่ชินยังงัยไม่รู้

  • ไม่นานที่นอนของเราก็พร้อม

  • นอนสบายค่ะ เช้าๆตื่นมามองวิวไปเรื่อยๆ

  • รักการเดินทางด้วยรถไฟค่ะ เพลินดี ไม่เบื่อ และ ปลอดภัยอีกด้วย เช้าถึงจุดหมายก็พร้อมไปลุยต่อได้เลย


  • ตรงตามเวลา มะนาวก้าวเดิน ก็มาถึงเชียงใหม่แล้ว

  • ไปต่อกันได้เลยค่ะ บอกรถโดยสารแดงไป ประตูเมืองเชียงใหม่ คนล่ะ 30 บาท

  • สังเกตป้าย เชียงใหม่-จอมทองค่ะ บอกว่าไปลงท่ารถแม่แจ่ม

  • คนล่ะ 35 บาทใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมง

  • ถึงท่ารถแม่แจ่ม ก็หาซื้ออาหาร ขนม น้ำหวานติดตัวไปด้วยนะค่ะ

  • เพราะที่ นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียงไม่มี ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น หรือ ร้านอาหารใดๆทั้งสิ้นค่ะ

  • นอกจากอาหารจาก ที่พักที่เค้ามีให้ เช้า-เย็น

  • ผู้โดยสารหนาแน่นแบ่งๆกันไปค่ะ ค่ารถคนล่ะ 70 บาท ใช้เวลาวิ่งประมาณชั่วโมงค่ะ

  • บอกรถแม่แจ่มว่า จะลงที่ทางแยกตรงน้ำตกแม่ปานค่ะ

  • มะนาวได้โทรบอกที่พัก พี่วิชัยเค้าจะได้มารอรับ ราคาพาไป และ พากลับมา 700 บาทค่ะ

  • มันก็คงต้องหัวสั่นหัวคลอน กันสักครึ่งชั่วโมงอ้ะนะ

  • มะนาวขอให้พี่วิชัยพาเลยบ้านป่าบงเปียงไปที่ นาขั้นบันได บ้านตีนผา

  • มีหมู่บ้านอยู่กลางหุบเขาของดอยอินทนนท์ ที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเขาชาวปกากญอ

  • คิดถึง แม่กำปอง และ บ้านอีต่องขึ้นมาทันที่เลย

  • ทักทายชาวบ้าน ยิ้มหวานๆเป็นมิตร รู้สึกสุขใจมากมาย

  • เมื่อก่อนที่พักบ้านป่าบงเปียงจะมีเพียงหลังเดียว คือ มาฉิโพ

  • แต่ปัจจุบันมีที่พักเพิ่มขึ้นประมาณ 10 กว่าหลัง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครือญาติกัน

  • ที่พักที่นี่ทุกหลังไม่มีไฟฟ้าใช้ ใช้เทียนและไฟฉาย

  • ลักษณะของบ้านก็เป็นกระท่อมไม้แบบเรียบง่าย มีที่นอนหมอนมุ้งให้ ราคาเท่ากันด้วยนะค่ะ

  • คนล่ะ 500 บาทมีอาหารเช้า - เย็น

  • ห้องน้ำมีให้ถึงสองห้อง มีทั้งแบบชักโครก และ แบบยองๆ แล้วแต่ถนัดเลยค่ะ

  • คนที่ไม่ได้ค้างก็แวะเข้ามาถ่ายภาพ เดินเล่นที่บ้านป่าบงเปียงได้นะค่ะ

  • ทางตันไปต่อไม่ได้ ย้อนขึ้นมาก่อนดีกว่า

  • พบเจอบ้านพัก มะนาวก็จะเก็บภาพมาฝาก

  • ไปรอบๆที่เดินผ่านล่ะกันเนอะ

  • หลังนี้ ก็ บ้านมาฉิโพ ค่ะ

  • ส่วนหลังนี้ติดกับ บ้านมาฉิโพ ชื่อ บ้านเปียงนา

  • บ้าน น้องน้ำพุ

  • แถบบ้านพักตรงเนินตรงข้ามบ้านที่มะนาวพัก ก็จะเห็นวิวแบบนี้

  • บ้านพัก 2 หลังอยู่ด้านล่างเป็นบ้านของพี่ศรชัย

  • บ้าน ม่อนนา

  • ทุกหลังมองเห็นวิวทุ่งนาแต่จะมองเห็นในวิวต่างกันตามตำแหน่งที่ตั้ง

  • หลังนี้เลย ที่มะนาวอยากจะมานอน บ้านมาฉิโพ บ้านพักหลังแรกของ ป่าบงเปียง

  • แต่ถึงไม่ได้นอนที่นี้ ก็เข้าไปเก็บภาพ บรรยากาศของบ้านตำนาน นาขั้นบันได ป่าบงเปียง มาฝากนะค่ะ

  • มาฉิโพ แปลว่า ชาวนา เป็นที่พักแห่งแรกของที่บ้านป่าบงเปียง

  • บ้านพักมาฉิโพบริเวณนี้ มีทั้งหมด 3 หลัง เรียงกัน

  • เป็นทั้งของพี่วิชัยและของน้องชาย ซ้ายสุดคือ บ้านมาฉิโพ หลังกลางของน้องชาย และอีกหลังก็เช่นกัน แต่พี่วิชัยบอกว่าที่พักทุกหลังในของที่นี่คือญาติกันหมด

  • เบอร์โทรติดต่อพี่วิชัย 081 020 1691

  • เดินตามเค้าลงไปหามุมเก็บภาพยามเย็นต่อ

  • หันกลับมามอง จะเห็นบ้านพักเรียงแถวหน้ากระดาน มองมาที่วิวนาขั้นบันไดทุกหลัง

  • กลับมาถึงก็เสื้อผ้าเละ และ หิวมาก ดินเนอร์ของเรามาพร้อมหลอดไฟใส่ถ่าน

  • เลี้ยงดีมากมาย อาหารอร่อย และให้มาเยอะมากค่ะ

  • นอนดูดาวจนง่วงก็เข้ามุ่งนอน หลับสบายผ้าห้มมากมายให้ไว้ ที่นี้ เสียงนาฬิกาปลุกเป็นพี่ไก่ ตอนตี5

  • มีหมอกด้วย ดีใจสุดๆค่ะ

  • หมองเบาๆบางๆ เพลินตา

  • สายแล้ว กลับมาดื่มกาแฟ กินข้าวเช้าได้แล้วมั่งงง

  • เลี้ยงดีอีกแล้ว จะขาดทุนไหมนี้ พี่วิชัยยยย พอถามแบบนี้กับพี่วิชัย พี่เค้าบอกว่า ที่นี้ไม่มีอะไรขาย ต้องกินข้าวเยอะๆ น่ารัก ใจดี เป็นห่วงพวกคนเมืองเช่นเราจริงๆ ขอบคุณมากคร่า

  • ระหว่างกิน ยังวิ่งมาถ่ายภาพต่อ ก็พระอาทิตย์ฉายแสงเป็นทางยาวทาบลงมากลางนาขั้นบันได

  • พอจะกลับก็เจอแสงสวยอีก มะนาวก็จะอดใจไม่ถ่ายรูปอีกได้ยังงัยคร่า

  • ครั้งนี้เป็นครั้งที่2 แต่ก็ประทับใจ ถึงข้าวจะถูกเกี่ยวไปเกือบหมดแล้ว แต่ ก็ยังทิ้งความมีเสน่ห์แห่งท้องทุ่งนาขั้นบันได ไว้ให้ชื่นใจ

  • 10:30 น.ก็บอกให้พี่วิชัยมารับที่บ้านพัก

  • พี่วิชัยเลยมาส่งที่ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่กลาง

  • รอรถแม่แจ่มผ่านมา

  • หรือ สามารถโบกรถลงมาที่ จอมทองได้เลยนะค่ะ ประหยัดไป70บาท

  • รออยู่นานเพราะ พอรถแม่แจ่มมา(12:30น.) โบกเลยสิค่ะ

  • มะนาวจึงขอเบอร์คุณลุงคนขับรถมาฝากเพื่อนๆ เวลาจะกลับจะได้นัดจองเวลากันได้ค่ะ

  • สำหรับการท่องเที่ยวนาขั้นบันไดป่าบงเปียง แบ่งเป็น 3 ช่วง

  • 1.ช่วงการดำนา คือ ในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. ซึ่งต้นข้าวยังเป็นต้นกล้า ไม่เต็มพื้นที่ทำให้สามารถมองเห็นท้องฟ้าสะท้อนพื้นน้ำของท้องนา

  • 2.ช่วงเดือนก.ย. – ต้น ต.ค. จะเห็นข้าวเขียวขจีเต็มท้องทุ่ง

  • 3. ช่วงปลายเดือนต.ค ต้นข้าวจะเป็นสีทอง

  • มะนาวนำภาพเมื่อสองปีที่แล้ว ที่มา บ้านป่าบงเปียงครั้งแรกมาฝากให้ชมด้วยค่ะ

  • ก็สวยไปอีกแบบ เนอะค่ะ มะนาวก้าวเดินจะกลับไปอีกแน่นอนค่ะ อยากจะไปช่วงนาเขียวเต็มท้องทุ่งนา ไปไม่ยาก ราคาไม่แพง ความสุขล้นใจ ไปเที่ยว นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียงกันน่าค่ะ

  • ค่าใช้จ่าย

  • ค่ารถไฟตู้นอนห้องแอร์ ขบวนเก่า เตียงล่าง 841 บาทไปและกลับ 1,682 บาท

  • ค่ารถโดยสารแดงจาถสถานีรถไฟเชียงใหม่ไปกำแพงเมืองเชียงใหม่ 30 บาท ไป-กลับ 60 บาท

  • ค่ารถเชียงใหม่-จอมทอง 35บาทไป-กลับ 70 บาท

  • ค่ารถจากจอมทองไปแม่แจ่ม ลงที่ทางแยกน้ำตกแม่ปาน 70บาทไป-กลับ 140 บาท

  • ค่ารถ 4WD ของพี่วิชัย มารับและออกมาส่ง เข้า-ออกป่าบงเปียง 700บาท หารกับคุณมะนัยจ่ายคนล่ะ 350บาท

  • ค่าบ้านพัก มาฉิโพ 500บาทพร้อมอาหารเช้า-เย็น

  • มะนาวจ่ายเพิ่มค่ารถที่ให้พี่วิชัยพาเลยเข้าไปที่ บ้านตีนผา 300บาทหารคนล่ะครึ่งกับคุณมะนัย 150บาท

  • รวมค่าใช่จ่าย 2,952 บาท


5,511 views0 comments

Comments


bottom of page